วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558


Diary Note No.10

บันทึกอนุทิน
Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

สัปดาสุดท้ายของการเรียน






  • หลังจากนั้นอาจารแจกของรางวัลคนที่สะสมปั้มได้มากที่สุดหนูได้รางวัลชมเชยค่ะได้ที่คั้นหนังสือน่ารัก



ทำท่าบริหารสมองนวดไหปลาร้า
  • นวดขมับ
  • นวดหู
  • มือซ้ายหูขวา มือขวาหูซ้าย
  • มือซ้ายแตะจมูก มือขวาจับติ่งหู
  • มือซ้ายจีบ มือขวาแอล
  • นับ 1-10
  • ลูบและทุบ
  • ผสานนิ้วผ่อนคลาย
  • ส่งการบ้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนำงานไปติดที่พนักหลังห้องเพื่อชมผลงานของแต่ละบุคคล
การบริหารสมอง หมายถึง การบริหารร่างกายในส่วนที่สมองควบคุมโดยเฉพาะกลุ่มเส้นประสาท Corpus Callosum ซึ่งเชื่อมสมอง 2 ซีกเข้าด้วยกันให้ประสานกัน แข็งแรงและทำงานคล่องแคล่วอันจะทำให้การถ่ายโยงข้อมูลและการเรียนรู้ของสมอง 2 ซีกเป็นไปอย่างสมดุลเกิดประสิทธิภาพและยังช่วยให้เกิดความผ่อนคลายความตึง เครียด ทำให้สภาพจิตใจเกิดความพร้อมที่จะเรียนรู้ เกิดความจำทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีอารมณ์ขันเพราะคลื่นสมอง (Brain Wave) จะลดความเร็วลงคลื่นเบต้า (Beta) เป็น อัลฟา (Alpha) ซึ่งเป็นสภาวะที่สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด



ความรู้ที่ได้รับ
  • ได้ฝึกการทำงานศิลปะและการนำภาพทั้งหมดมารวมเป็นรูปเดียวกัน
  • ได้ฝึกสมาธิ การบริหารสมอง
ประเมินเพื่อนร่วมห้อง
  • เพื่อนให้ความร่วมมือดี
ประเมินอาจารย์ผู้สอน
  • อาจารย์มีน้ำเสียงที่น่าฟังเหมาะสมกับการเรียนรู้
  • อาจารย์มีตัวอย่างให้นักศึกษาดูว่างานชิ้นนี้ทำแบบไหน
  • อาจารย์มีความสุขไปกับนักศึกษา
  • อาจารย์มอบรางวัลให้กับนักศึกตอนปิดคอสเรียน

Diary Note No.10

บันทึกอนุทิน
Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

  • อาจารย์ให้การบ้านกลับไปทำที่บ้านเนื่องจากเวลาหมด
  • กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
พัฒนาการทางศิลปะของ (Lowenfeld and Britain)

ความหมาย

    
     เป็นเครื่องมือที่ใช้ให้เด็กแสดงความรู้สึก ความต้องการออกมาผ่านผลงาน
การวาด การปั้น การประดิษฐ์ การตัด การฉีก การปะ การพับ

ความสำคัญและประโยชน์ของศิลปะสร้างสรรค์

เด็กได้แสดงความรู้สึก ความคิด ความสามารถตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของเด็กบำบัดอารมณ์ฝึกทักษะการทำงานของอวัยวะต่างๆแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของเด็ก
1.ขั้นขีดเขียน (Scribbling Stage)
2-4 ปี
ความสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
2.ขั้นก่อนมีแบบแผน (Preschemalic Stage)

4-7 ปี
ภาพมีความสัมพันธ์กับความจริง
3.ขั้นใช้สัญลักษณ์ (Schemalic Stage)

7-9 ปี
คล้ายของจริง
หลักการจัดประสบการณ์ศิลปะ
กระบวนการสำคัญกว่าผลงานหลีกเลี่ยงการวาดภาพตามแบบ การระบายสีจากสมุดภาพ ชื่นชมม เตรียมอุปกรณ์ศิลปะสำคัญเช่นเดียวกับการเขียนอ่านหลีกเลี่ยงคำถาม "กำลังทำอะไร" หรือ "เดาสิ่งที่เด็กทำ"
กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
  • กิจกรรมสี
  • การปั้น
  • การตัดปะ
  • การพับ 
  • การประดิษฐ์









ความรู้ที่ได้รับ
  • ได้รับความรู้ของท่าบริหารสมอง ถ้าทำทุกวันแล้วจะฉลาดขั้น สมองจะทำงานได้ดี
ประเมินเพื่อนร่วมห้อง
  • เพื่อนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ตั้งใจเรียน มีความพร้อมในการเรียน แต่มีบางส่วนที่ยังชอบคุย ชอบเล่น ในขณะที่อาจารย์สอน
ประเมินอาจารย์
  • อาจารย์แต่งกายเรียบร้อย สุภาพ มีเทคนิคการสอนที่หลากหลาย ให้มีการให้คำแนะนำแก่นักศึกษา

Diary Note No.9

บันทึกอนุทิน
Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

  • กิจกรรมการสอนเขียนกระดานและแต่งนิทาน
                                                       นิทาน เรื่อง ผักมีประโยชน์
                                                           หนูไปซื้อผักกับแม่ที่ตลาด
                                                        หนูเห็นผักหลายอย่างเลย
                                                        มีแครอท แตงกวา คะน้า
                                                        เอาผักมาทำอาหาร
                                                       กินผักร่างกายแข็งแรง
 

ภาพกิจกรรม




   

  • กิจกรรมการเรียนการสอน


แบ่งกลุ่ม 5-6 คน ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
กลุ่มเราได้หน่วย ต้นไม้
ขั้นนำ

ให้เด็กหาบริเวณพื้นที่เฉพาะตัว
ให้เด็กเคลื่อนไหวตามจังหวะ เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดทันทีขั้นกิจกรรมสัมพันธ์เนื้อหา

จากนั้นให้เด็กเคลื่อนไหวตามจังหวะ พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งดังนี้
- แบ่งกลุ่ม 2 คน ให้เด็กสมมติตัวเองเป็นต้นไม้ มีลำต้น และกิ่ง
- แบ่งกลุ่ม 5 คน ให้เด็กสมมติตัวเองเป็นต้นไม้ มีลำต้น กิ่ง และ ใบ
- แบ่งกลุ่ม 8 คน ให้เด็กสมมติตัวเองเป็นป่าขนาดใหญ่ขั้นกิจกรรมพักคลายกล้ามเนื้อ

ให้เด็กหาบริเวณพื้นที่เฉพาะตัว นั่งหรือนอนในท่าที่ผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างอิสระ
ความรู้ที่ได้รับ
  • ได้รับความรู้ในเรื่องของการสอนกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ การสอนและการเขียนกระดานหน้าห้องเรียนว่าควรทำอย่างไร
  • ได้รู้ทักษะของการสอนการเขียนบนดานและการสอนแบบให้สัญญาณเด็กพร้อมจังหวะ
ประเมินเพื่อนร่วมห้อ
  • เพื่อนทุกคนมีความตั้งใจเรียน มีส่วนร่วมกับการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี เข้าเรียนตรงเวลา
ประเมินอาจารย์

  • อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา มีเทคนิคการสอนที่หลากหลาย มีการคอมเม้นท์นักศึกษาขณะที่นักศึกษาสอบสอนเสร็จแล้ว เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรมอย่างเต็มที่

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558


Diary Note No.8

บันทึกอนุทิน

Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

  1. ทบทวนเพลง
  2. แบ่งกลุ่มกันฝึกเขียนกระดาน
  3. แต่งนิทานที่ใช้ในการสอนเด็ก
  • วามรู้ทบทวนการร้องเพลงสัปดาห์ก่อน


  • อาจารย์สอนการเขียนกระดาน


  • แบ่งกลุ่มไปฝึกเขียน




 

  • ต่งนิทานเกี่ยวกับเรื่องที่จะสอน
นิทาน เรื่อง ผักมีประโยชน์
หนูไปซื้อผักกับแม่ที่ตลาด
หนูเห็นผักหลายอย่างเลย
มีแครอท แตงกวา คะน้า
เอาผักมาทำอาหาร
กินผักร่างกายแข็งแรง


อาจารย์ให้แบ่งกลุ่ม 5-6 คน เพื่อทำกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ
โดยจะส่งตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาสอน และให้กำหนดคำสั่งและสัญญาณดังต้อไปนี้


หัวข้อเรื่อง ต้นไม้
ขั้นนำ
ให้เด็กๆหาบริเวณและพื้นที่และเคลื่อนไหวตามเสียงสัญญาณ
ขั้นสอน
ให้กำหนดคำสั่งและสัญญาณดังต้อไปนี้
- แบ่งกลุ่ม 2 คน ให้เด็กสมมติตัวเองเป็นต้นไม้ มีลำต้น
- แบ่งกลุ่ม 5 คน ให้เด็กสมมติตัวเองเป็นต้นไม้ มีลำต้น กิ่ง และใบ
- แบ่งกลุ่ม 8 คน ให้เด็กสมมติตัวเองเป็นป่าขนาดใหญ่
ขั้นพักคลายกล้ามเนื้อ
เด็กๆหาบริเวณและพื้นที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระ


ความรู้ที่ได้รับ
  • ได้รู้ทักษะของการสอนการเขียนบนดานและการสอนแบบให้สัญญาณเด็กพร้อมจังหวะ
ประเมินเพื่อนร่วมห้อง
  • เพื่อนให้ความร่วมมือดี
ประเมินอาจารย์ผู้สอน
  • อาจารย์มีน้ำเสียงที่น่าฟังเหมาะสมกับการเรียนรู้
  • อาจารย์มีความสุขไปกับนักศึกษา




Diary Note No.7

บันทึกอนุทิน

Story of subject (เนื้อหาที่สอน)
  • อาจารย์แจกสีให้คนละกล่อง
อาจารย์ให้ประดิษฐ์ไม้กายสิทธิ์
รูปในการทำกิจกรรม


วัสดุอุปกรณ์
  1. กระดาษ
  2. ดินสอสี
  3. กรรไกร
  4. ไม้ลูกโป่ง
  5. กาว
  6. กระดาษสี





เป็นภาพผลงานที่ทำเองวาดเองน่ารักๆๆชอบวิชานี้มาก 





รวมผลงานที่เพื่อนทำกันทั้งห้องสวยมากๆเลย


ความรู้ที่ได้รับ
  • ได้ประดิษฐ์ไม้กายสิทธฺิ์
  • ได้ทำในสิ่งที่ชอบและก็เป็นกิจกรรมดีๆสามารถนำไปใช้ในการสอนได้ด้วย
ประเมินเพื่อนร่วมห้อง
  • เพื่อนให้ความร่วมมือดี
ประเมินอาจารย์ผู้สอน
  • อาจารย์มีน้ำเสียงที่น่าฟังเหมาะสมกับการเรียนรู้
  • อาจารย์มีความสุขไปกับนักศึกษา


Diary Note No.6

บันทึกอนุทิน

Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

กิจกกรรมฟังเสียงดนตรีและเสียงสัตว์
ก่อนทำกิจกรรมอาจารย์จะให้ฟังเสียงสัตว์แต่ละชนิด
  • ไวโอลิน
  • แซ็กโซโฟน
  • เม้าท์ออกแกน
  • ฉาบ
  • ทอมโบน
  • กีต้าร์
  • เปียโน
  • แตร
  • ฟรุ๊ต
  • นิ้งหน่อง
  • ทรัมเป็ต
  • กลองชุด
  • เชลโล
  • ปี่สก็อต
กิจกรรมฟังเสียงสัตว์

  • สุนัข
  • แมว
  • หมู
  • วัว
  • ไก่ตัวผู้
  • ม้า
  • ไก่ตัวเมีย
  • ลา
  • แพะ
  • เป็ด
  • นก
กิจกรรมเสียงกระซิบ
แรดอย่างสงบ ตบเมื่อจำเป็น ตอแหลอย่างเยือกเย็น เพราะเราเป็นไฮโซ
  1. ทบทวนบทเรียนเรื่องภาษาสร้างสรรค์กับเด็กปฐมวัย
  2. เล่มกิจกรรมเสียงกระซิบโดยแบ่งกลุ่ม 5 คน
  3. ร้องเพลงอะไรเอ่ย
  4. ทำกิจกรรมแต่งเพลงทำนองอะไรเอ่ย
กิจกรรมแต่งเพลง คำคล้องจอง

อะไรรูปร่างสูงใหญ่      มันกินใบไม้ยุในทุ่งหญ้า
ลำคอสูงยาวสีเหลืองลาย   ท่าทางสง่ามาลองทายดู



อะไรเอ่ยรูปร่าใหญ่โต  เขายาวมากโขไถนาก็ได้
มีขาสี่ข้างมีหางแกว่งไกว  แช่โคลนสุขใจคู่หูชาวนา




Skill (ทักษะที่ได้รับ)
  • การฟัง
  • การจินตนาการ
  • การคิดสร้างสรรค์
Adoption( การนำไปใช้)


  • นำกิจกรรมเสียงกระซิบไปจัดกิจกรรมเพื่อให้เด็กได้คิดและจินตนาการ

classroom atmosphere (บรรยากาศในห้องเรียน)
  • สนุกกับการคาดเดา
  • สนุกกับการทำกิจกรรม
  • ตื่นเต้าเมื่อได้ทำกิจกรรมใหม่ๆ
Self-Assessment (ประเมินตนเอง)
  • แต่งตัวเรียบร้อย
  • ตั้งใจเรียน
  • เป็นเด็กดี
friend-Assessment (ประเมินเพื่อน)
  • ตั้งใจทำกิจกรรมไม่เสียงดัง
Teacher-Assessment (ประเมินอาจารย์)

  • ใช้สื่อประกอบกิจกรรมดี อาจารย์แต่งตัวเรียบร้อย
  • น่ารักสดใส ใจดีทำให้นักศึกษาได้ความรู้ใหม่ๆ และกิจกรรมใหม่ๆตลอด
Diary Note No.5


บันทึกอนุทิน
Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

เล่นเกมนักมายากลระดับโลก (เปรียบเสมือนว่ารู้สึกอย่างไรกับที่ต้องโกหกคนอื่น)

กิจกรรมนักออกแบบอาคาร


ไม้กับดินน้ำมัน (ให้แบ่งกลุ่มกันและแข่งกันว่ากลุ่มไหนสามารถออกแบบอาคารได้สูงกว่ากันภายในเวลาที่กำหนดให้)
อาจารย์แนะนำการสอนว่าต้องบอกเด็กว่าอะไรและถามเด็กว่าอะไร
ทุกกิจกรรมต้องแบ่งกลุ่มก่อนที่จะแจกอุปกรณ์ให้เด็กทำทุกครั้ง
การเล่นเพื่อสิ่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
 

  1. ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ห้ามปรึกษาห้ามคุยกันต่างคนต่างทำ

2. ให้พูดได้แค่คนเดียว


3.ให้ปรึกษาคุยกันได้




การเล่น
คือกระบวนการเรียนรู้ และประสบการณ์ที่เด็กได้รับ
ทำให้เด็กเกิดความสนุกสนานเพลินเพลิน ผ่อนคลาย
ปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนและสิ่งแวดล้อม

แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการเล่น

Piaget กล่าวถึงพัฒนกาารเล่นของเด็กมี 3 ขั้นดังนี้

ขั้นการเล่นโดยใช้ประสาทสัมผัส (Sensorimotor Play) 
เช่น การหยิบจับ สำรวจ ซึ่งจะยตุลงเมื่อเด็ก 2 ขวบ
ขั้นการเล่นสร้างสรรค์ (Constructive Play) อายุ 1ปีครึ่ง-2ปี การเล่นไม่มีขอบเขต เล่นด้วยความพอใจมากกว่าคำนึงถึงความเป็นจริง จะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เล่นคนเดียวต่างคนต่างเล่น
ขั้นการเล่นที่ใช้สัญลักษณ์ (Symbolic Play) อายุ 2 ขวบขึ้นไป สามารถพัฒนาการเต็มที่เมื่ออายุ 3-4 ขวบ เกิดขึ้นเมื่อเด็กสามารถจำและสมมติสิ่งของเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่ไม่มีอยู่ที่นั่น ลักษณะการเล่นที่ใช้สัญลักษณ์ที่นับว่าเป็นพัฒนาการสูงสุดคือการเล่นบทบาทสมมติ

การเล่นในร่ม
  • การเล่นตามมุมประสบการณ์
  • การเล่นสรรค์สร้าง 

การเล่นสรรค์สร้าง

  • การเล่นที่ให้โอกาสเด็กคิดค้นวิธีเล่นอย่างอิสระ และเล่นได้หลายวิธี
  • ใช้ความคิดพลิกแพลงวิธีเล่นให้แตกต่างไปจากเดิม
  • เด็กเกิดความรู้ความเข้าใจด้วยตนเอง

องค์ประกอบของการเล่นสรรค์สร้าง
  • สภาวะการเรียนรู้
  • พัฒนาการของการรู้คิด
  • กระบวนการเรียนและกระบวนการสอน

กระบวนการจัดประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้
  • เปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องสับเปลี่ยน
  • การเรียนรู้เกี่ยวกับตรงเวลา
  • การจำแนกอย่างมีเหตุผล
หลักการจัดกิจกรรมการเล่นสรรค์สร้าง
  • ศึกษาสภาพของเด็กและกำหนดขอบข่ายความสามารถของเด็ก
  • ศึกษาสภาพแวดล้อม จัดเตรียมสื่อและกิจกรรมให้เหมาะสม
  • มีส่วนร่วมกับเด็กในจังหวะเวลาที่เหมาะสม
  • มีการสรุปท้ายกิจกรรม
รูปแบบการสอนแบบ STEM
  • S = Science
  • T = Tecnology
  • E = Engineering
  • M = Mathematics 


  • กิจกรรมเรือน้อยบรรทุกของ
ไห้ออกความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเรือให้เรือไม่จมในขณะที่ใส่ไข่ไปทั้งหมด 20 ฟอง
อุปกรณ์ในการทำเรือ




สรุป
 การทำกิจกรรมครั้งนี้ทำให้เห็นถึงการมีส่วนร่อมของเพื่อนๆในการทำกิจกรรม มีสมาธิในการทำงานร่วมกัน และที่สำคัญจะทำยังไงให้ไข่บรรทุกในเรทอได้ 20 ฟอง 



ความรู้ที่ได้รับ

  • ได้เทคนิคการสอนในรูปแบบต่างๆ
  • อุปกรณ์ต่างๆสามารถนำมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนได้
ประเมินเพื่อนร่วมห้อง
  • เพื่อนให้ความร่วมมือดี
ประเมินอาจารย์ผู้สอน
  • อาจารย์มีน้ำเสียงที่น่าฟังเหมาะสมกับการเรียนรู้
  • อาจารย์ใช้เทคนิคในการสอนที่หลากหลาย
  • อาจารย์มีความสุขไปกับนักศึกษา
Diary Note No.4

บันทึกอนุทิน
Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

     ปั๊มดาวการเข้าเรียน
     เล่นเกมนับเลข- โดยการนับเลข 1 2 3 4 5 6 . . .. . . .
       -เลขที่ลงท้ายด้วย 3 และ 7 ไม่ต้องนับแต่ใช้การปรบมือแทน
       -ใครทำผิดกติกาต้องถูกลงโทษ
  • ทบทวนเพลงของสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • แจกชีสเพลง Mary Had A Little Lamb
ร้องเพลงใหม่


  • จับกลุ่มออกแบบชุดจากกระดาษหนังสือพิมพ์
อุปกรณ์ในการทำกิจกรรม
  1. กรรไกร
  2. หนังสือพิมพ์
  3. เทปกาว
 

ภาพกิจกรรมหลังจากทำเส็จแล้วหน้าตาดีมากๆๆ
  •  เข้าสู่การประกวด








Teaching methods วิธีการสอน
  • สอนโดยการบรรยาย
  • สอนโดยการให้เด็กลงมือกระทำ
  • การทำงานเป็นทีมSkills ทักษะที่ได้รับ
  • การแบ่งงานกันภายในกลุ่ม
  • ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตนเอง
การวางแผนการทำงานApplications การนำไปใช้
  • รู้จักนำสิ่งของเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง
  • ฝึกจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์The atmosphere in the classroom บรรยากาศในห้องเรียน
  • มีความกระตือรือร้นกันมากขึ้นในการเรียน
Self-evaluation ประเมินตนเอง
  • มาเรียนทันเวลา
  • มีความรับผิดชอบ
  • รู้จักการทำงานร่วมกับเพื่อนๆ
Rating friends ประเมินเพื่อน
  • มีส่วนร่วมในการทำงาน
  • ตั้งใจทำงาน
Teacher evaluation ประเมินอาจารย์
  • อาจารย์น่ารัก
  • สอนสนุก
  • น้ำเสียงน่าฟัง
  • ทำให้บรรยากาศสดใส




    Diary Note No.3


    บันทึกอนุทิน
    Story of subject (เนื้อหาที่สอน)

  • ก่อนเข้าสู่บทเรียนอาจารย์ได้นำเกมมาให้ทายใจก่อนเข้าสู่บทเรียนซึ่งเป็นการทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียนและกระตือรือร้นมากขึ้น
  • ทำแบบสอบถาม "การยับยั้งชั่งใจของเราเอง"- รั้วที่กั้นไร่สตอเบอรี่มีลักษณะใด
  • ถ้าได้ลองชิมจะชิมเยอะขนาดไหน
  • เมื่อถูกเจ้าของไร่จับได้เราจะทำอย่างไร
  • รู้สึกอย่างไรเมื่อเดินออกมาจากไร่นั้น
แนวคิดทฤษฎีทางความคิดสร้างสรรค์
แนวคิดและทฤษฎีโครงสร้างทางปัญญาของ Guilford
อธิบายความสามารถของสมองมนุษย์เป็นแบบจำลอง 3 มิติ

  • มิติที่ 1 : เนื้อหา (ข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อในการคิด)
ภาพ (สิ่งที่เห็น)
สัญลักษณ์ (สิ่งที่แทนความหมาย)
ภาษา (การสื่อสาร)
พฤติกรรม (สิ่งที่แสดงออกมา)
  • มิติที่ 2 : วิธีคิด (กระบวนการทำงานของสมอง)
การรู้และเข้าใจ
การจำ
การคิดแบบอเนกนัย (คิดคำตอบให้เยอะ ในโจทย์เดียว)
การคิดแบบเอนกนัย (หาคำตอบที่ดีที่สุด)
การประเมินค่า
  • มิติที่ 3 : ผลของการคิด (การตอบสนองต่อข้อมูลหรือสิ่งเร้า)
  1. หน่วย (ของเป็นชิ้นๆ หรือ หน่วยการเรียน เช่น หน่วยสัตว์ หน่วยผลไม้)
  2. ระบบ เช่น 1 3 5 7 9 หรือ 2 4 6 8 10
  3. จำพวก (สัตว์บก,สัตว์น้ำ)
  4. การแปลงรูป เช่น จากรูปสี่เหลี่ยม สามารถเปลี่ยนไปเป็นรูปไรได้บ้าง
  5. ความสัมพันธ์ (สิ่งที่สัมพันธ์กัน)
  6. การประยุกต์ (มองสิ่งที่เห็นอยู่ ให้เปลี่ยนใจ)
ทฤษฎี Constructivism (เรียนรู้ด้วยตนเอง)
  1. เด็กเรียนรู้เอง
  2. เด็กคิดเอง
  3. ครูกับเด็กเรียนรู้ไปด้วยกัน
  4. สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง
ทฤษฎีของ Torrance (การแก้ไขปัญหา)
  • ขั้นที่ 1 การพบความจริง
  • ขั้นที่ 2 การค้นพบปัญญา
  • ขั้นที่ 3 การตั้งสมมติฐาน
  • ขั้นที่ 4 การค้นพบคำตอบ
  • ขั้นที่ 5 ยอมรับผล
บรรยาการที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
  • เด็กรู้สึกปลอดภัย (สบายใจ,อบอุ่น)
  • ให้เด็กได้ลองเล่นคนเดียว
  • ให้ความสนใจเด็ก
  • ได้สำรวจ ค้นคว้า และสร้างสรรค์ด้วยตนเอง
  • ไม่มีการแข่งขัน
  • ลักษณะของเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์
  • มีไหวพริบ
  • มีอารมณ์ขัน
  • กล้าแสดงออก ,มั่นใจในตัวเอง
  • มีสมาธิ
  • อยากรู้อยากเห็น
  • ซาบซึ้นงกับสุนทรียภาพ
  • ช่างสังเกต
  • ชอบสร้าางแล้วรื้อ รื้อแล้วสร้างใหม่
  • มีความวิจิรตพิสดาร
  • ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา
กิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

Torrance ได้กล่าวถึงลักษณะของกิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไว้ 3 ลักษณะ
  • ลักษณะที่ 1 ความไม่สมบูรณ์ การเปิดกว้าง
(Incompleteness,Openness) ไม่ปิด ไม่ตีกรอบ
  • ลักษณะที่ 2 การสร้างบางอย่างขึ้นมา และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
(Producing Something and Using it )
  • ลักษณะที่ 3 การใช้คำถามของเด็ก 
(Using Pupil Question)
  • คำถามที่ส่งเสริมความคิดคล่องแคล่ว
  • คิดให้ได้มากที่สุด
  • คำถามที่ส่งเสริมความคิดริเริ่ม
  • คิดหรือทำสิ่งที่ไม่คเยมีใครคิดหรือทำมาก่อน
  • คำถามที่ส่งเสริมความคิดยืดหยุ่น
  • ได้คำตอบที่หลากหลาย (คำถามปลายเปิด)
  • คำถามที่ส่งเสริมความคิดละเอียดลออ
  • คิดให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ
  • แนวทางการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของ Torrance
  • ส่งเสริมให้เด็กถาม
  • เอาใจใส่ความคิดของเด็ก
  • ยอมรับคำตอบของเด็ก
  • ชี้แนะให้เด็กกหาคำตอบด้วยตนเอง
  • แสดงให้เด็กเห็นความคิดของเด็กมีคุณค่า
  • เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรุ้อยู่เสมอ
  • ค่อยเป็นค่อยไป
  • ยกย่องชมเชย
  • ไม่มีการวัดผล
การตั้งคำถาม 5 W 1 H

  • who ใคร
  • what อะไร
  • where ที่ไหน
  • when เมื่อไหร่
  • why ทำไม
  • how อย่างไร
กิจกรรมไร่สตอเบอรี่

  • ทบทวนเพลงของสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • แจกชีสเพลงใหม่ พร้อมกับร้องเพลง
  • กิจรรมสร้างศิลปะด้วยวัสดุจากธรรมชาติ


ให้นักศึกษาไปหาวัสดุจากธรรมชาติมาทำงานศิลปะ


1.วาดภาพศิลปะด้วยสีจากธรรมชาติ เช่นสีจากใบไม้ สีจากดอกไม้ สีจากดิน พร้อมอธิบายภาพ


ภาพวัสดุอุปกรณ์



ภาพที่เส็จแล้วที่วาดมาจากดอกไม้และวัสดุเหลือใช่ และที่เห็นเป็นเด็กนั่งชิงช้าหนูวาดมาจากดินเพราะดินเมื่อผสมน้ำแล้วสามารถวาดได้อาจจะออกแนววินเทจหน่อยๆแต่ก็สวยดีค่ะ




นำเสนอผลงานค่ะ



Teaching methods วิธีการสอน

-ให้เด็กได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง
-ให้เด็กนำเสนอผลงาน
-การทำงานเป็นกลุ่มร่วมกับเพื่อน

Skills ทักษะที่ได้รับ-การกล้าแสดงออก

  • กล้าลงมือกระทำ
  • รู้จักการแบ่งปัน ช่วยเหลือกัน

Applications การนำไปใช้-สามารถนำไปผลิตสื่อได้
  • นำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ

The atmosphere in the classroom บรรยากาศในห้องเรียน-ห้องเรียนมีบรรยายที่น่าเรียน สนุกสนาน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

Self-evaluation ประเมินตนเอง-เริ่มมีความพร้อมในการเรียนมากขึ้น
Rating friends ประเมินเพื่อน

  • เพื่อนๆน่ารัก รู้จักแบ่งปันสิ่งของให้กับผู้อื่น

Teacher evaluation ประเมินอาจารย์
  • หากิจกรรมที่น่าสนใจมาให้เรียนทุกสัปดาห์
  • แต่งกายสุภาพ เข้าสอนตรงเวลา